Select Page

เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 2ยุคสมัย

“พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา” ขอนำ “เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ” 2ยุคสมัยมาให้ท่านสมาชิกได้ศึกษา,เปรียบเทียบและพิจารณา​ในมุมมองของ
1.อายุเหรียญ
2.พิมพ์และวิธีการสร้าง
3.วัสดุหรือโลหะที่ใช้​สร้าง
ซึ่งทั้ง 2เหรียญนั้นมีอายุการสร้างที่ต่างยุคสมัยกัน​ โดยมีอายุห่างกันมากกว่า​ 50ปี ได้แก่
1.”เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ” รุ่นแรก ที่เป็นพระเหรียญโลหะในตำนานอีก 1เหรียญ ที่เป็นที่ศรัทธาและนิยมสูงสุดของคนไทยตั้งแคอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่แพ้เหรียญอื่นๆ ซึ่งเหรียญนี้มีการเรียกชื่อกันในอีกชื่อหนึ่งว่า”เหรียญข้าวหลามตัด” ซึ่งเหรียญนี้สร้างในปี พ.ศ.2466 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการสร้างเหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
หลักในการพิจารณาเหรียญแท้ต้องประกอบด้วย 3องค์ประกอบหลัก คือ
1.อายุความเก่าถูกต้องมีสัดส่วน 30%
2.พิมพ์(20%)และวิธีการสร้าง(20%)ถูกต้องรวมสัดส่วน40%
3.วัสดุหรือมวลสารที่ใช้สร้างถูกต้อง มีสัดส่วน 30%
ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนทั้ง 3องค์ประกอบทุกครั้ง “พระเครื่องแท้” จะต้องมีสัดส่วนครบ 100% เท่านั้น
1.อายุของเหรียญ ประมาณ 102ปี ดังนั้นโลหะที่ใช้สร้างเหรียญจะต้องมีความเก่าสมอายุโดยพิจารณาจาก
-สนิมโลหะที่ผิวเหรียญตามชนิดโลหะต้องมีให้เห็นและเก่าเป็นธรรมชาติ ของปลอมผิวเหรียญจะดูสดใหม่ เป็นมันวาว
-ความหดตัวของเหรียญต้องมีมาก โดยผิวเหรียญต้องมรความบเรียบตึงตามอายุการสร้าง ตามคุณสมบัติของโลหะ เหรียญปลอมจะบวมและผิวขรุขระ มีรูพรุนตามด
2.พิมพ์และวิธีการสร้างเหรียญถูกต้อง
-พิมพ์จะต้องมีความ”นิามตา” คือละเอียด,งดงาม,คมชัด และอ่อนช้อยมาก ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญ เนื่องจากเป็นฝีมือการออกแบบพิมพ์ของช่างหลวง (เนื่องจากการสร้างเหรียญนั้นเป็นพระราชดำหริของในหลวงรัชการที่ 6ในงานพระราชทานเพลิงพระศพของกรมหลวงชุมพรฯ ที่ท้องสนามหลวง) ดังนั้นภาพรวมทั้งหมดของพิมพ์จะบ่งชี้ความแท้ปลอมได้เป็นอย่างดี
-ส่วนรายละเอียดต่างๆของเหรียญปลอมจะไม่คมชัด,บวมเบลอ
– วิธีการสร้างเหรียญนั้นจะต้องเป็น “เหรียญปั๊มเลื่อยข้าง” เท่านั้น ไม่ใช่เป็นเหรียญเลื่อยข้างปั๊มกระบอก(ขอบเรียบ) ตามที่มีหลายข้อมูลมาแอบอ้างกันอยู่ในขณะนี้ ขอให้ท่านจดจำให้ขึ้นใจ ต้องอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด ซึ่งวิธีการสร้างแบบ”เลื่อยข้าง” ของเหรียญนี้จะช่วยแยกของปลอมได้อย่างเด็ดขาด
ท่านต้องจดจำให้ขึ้นใจว่า “เหรียญปั๊มข้างเลื่อยหรือเลื่อยข้าง” ในสมัยก่อนนั้นทำได้เฉพาะเหรียญเหรียญที่มีรูปแบบ “เหรียญกลม”หรือ “รี(รูปไข่)”เท่านั้น ถ้าเป็นเหรียญ”รูปสี่เหลี่ยม” , “รูปข้าวหลามตัด”,”รูปเสมา” หรือ “เหรียญรูปอาร์ม” นั้นจะสร้างแบบปั๊มข้างเลื่อยไม่ได้อย่างบเด็ดขาด เนื่องจากข้อจำกัดของเครื่องมือในสมัยก่อนที่จะมาสร้างตัวกระบอก แต่คนที่ทำปลอมไม่ได้คิดถึงในข้อนี้ จึงนำมาอ้างแบบไม่มีความรับผิดชอบ จุดประสงค์เพราะว่า
“ถ้าบอกว่าเป็นเหรียญปั๊มกระบอกขอบเรียบแล้ว จะทำให้การทำปลอมทำได้ง่ายมากกว่าการทำเป็นแบบข้างเลื่อยนั่นเอง”
ขอให้ท่านสมาชิกศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ ของทางเพจที่นำมาแนะนำ ท่านต้องศึกษาด้วยปัญญาและด้วยเหตุผลที่อธิบายได้ อย่าศึกษาพระเครื่องด้วยหู โดยเชื่อหรือฟังคนอื่นบอกต่อๆกันมา หรือจากข้อมูลจากแหล่งต่างๆทั้งในออนไลน์หรือหนังสือที่ไม่มีเหตุผลรองรับ แต่เพียงเพราะการอาศัยชื่อเสียงของบุคคล(หลักกู)หรือของกลุ่มบุคคล (หลักกลุ่ม) มาอ้างให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ท่านต้องใช้ “หลักการ” เท่านั้น
ซึ่งทางเพจได้นำภาพรายละเอียดพิมพ์จากเหรียญแท้ในหลากหลายจุด หลายมุมทั้งด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง พร้อมภาพเปรียบเทียบกับของเลียนแบบมาให้ท่านได้พิจารณาอย่างครบถ้วน
3.วัสดุหรือโลหะที่ใช้สร้างถูกต้อง
โดยโลหะที่ใช้สร้างเหรียญนั้นเป็นโลหะทองแดง ให้พิจารณาลักษณะของทองแดงในสมัย 100กว่าปีก่อนกับทองแดงในยุคปัจจุบันนั้นจะมีความแตกต่างกันโดยให้สังเกตสีโลหะ, สนิมโลหะและเนื้อโลหะก็จะพอแยกของแท้ออกจากของปลอมได้
2.เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ​ (เหรียญข้าวหลามตัด)ที่ปลุกเสกโดย​หลวงปู่ทิม​ วัดระหารไร่​ จ.ระยอง
โดยเหรียญมีข้อมูลที่ควรทราบดังนี้
– เหรียญนี้สร้างในปีพ.ศ.2518 ซึ่งมีอายุครบครึ่งศตวรรษ(50ปี) ในปีพ.ศ.2568นี้
– ขนาดและรายละเอียดพิมพ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะมีความคล้ายคลึงกับเหรียญข้าวหลามตัดรุ่นแรกที่สร้างในปีพ.ศ.2466
– แต่วิธีการสร้างจะแตกต่างกันชัดเจนคือจะเป็นแบบ “เหรียญตัดปั๊มยุคใหม่”
– ส่วนรูปแบบเหรียญจะเป็นรูปทรง”สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด” คล้ายกันแต่จะไม่มีการเจาะหูเหรียญด้านบนเหมือนเหรียญรุ่นแรก
– เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
– เหรียญรุ่นนี้จะมีเนื้อโลหะ​ 2ชนิดคือเนื้อนวะโลหะแก่ทองและเนื้อทองแดงธรรมดา​ ซึ่งทั้ง​ 2เนื้อเป็นบล็อคแม่พิมพ์เดียวกัน​ จะต่างกันที่ตำแหน่งการตอกโค้ด “ยันต์เฑาะว์” โดยในเหรียญนวโลหะจะตอกโค้ดไว้ที่ด้านหน้าเหรียญเหนือไหล่ข้างซ้ายขององค์กรมหลวงชุมพรฯ​ แต่เนื้อทองแดงจะตอกไว้ด้านหน้าเหรียญเช่นกันแต่อยู่ที่ด้านล่างตรงกลางขององค์กรมหลวงชุมพรฯ
วิธีการพิจารณาของแท้นั้นใช้ “หลักการ” พิจารณาเหมือนพระเครื่องแท้ทุกหมวดหมู่จะต้องประกอบด้วย 3องค์ประกอบหลัก คือ
1.อายุความเก่าถูกต้องมีสัดส่วน 30%
2.พิมพ์(20%)และวิธีการสร้าง(20%)ถูกต้องรวมสัดส่วน40%
3.วัสดุหรือมวลสารที่ใช้สร้างถูกต้อง มีสัดส่วน 30%
ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนทั้ง 3องค์ประกอบทุกครั้งคือ
1.การพิจารณาอายุเหรียญ
– รุ่นแรก(หลวงปู่ศุข)​มีอายุการสร้าง 2568-2466=102ปี
– รุ่นหลัง(หลวงปู่ทิม)​มีอายุการสร้าง 2568-2518​ = 50ปี​
-ความเก่าและสนิมโลหะ​ จะต้องมีให้เห็นสมอายุสังเกตได้จากผิวเหรียญจะต้องไม่ใหม่วาวเวลาถ่ายภาพ​
– การหดตัวเเละความเรียบตึงที่ผิวต้องสมอายุไม่บวมเหมือนของใหม่
2.การพิจารณารายละเอียดพิมพ์และวิธีการสร้างต้องตรงตามประวัติคือ
– การพิจารณาพิมพ์​
ต้องมีความ”นิ่มตา” คืองดงาม​,ละเอียด​,คมชัด​ มีมิติ​ ในเหรียญแท้​ แต่ของปลอมจะบวมเบลอไม่คมชัด(ดูภาพประกอบด้านล่าง)​
– การพิจารณาวิธีการสร้าง
– รุ่นแรกมีการสร้างแบบเลื่อยข้างปั๊มกระบอก
– รุ่นหลัง​ตัวหนังสือ​การสร้างเป็นเหรียญตัดปั๊มยุคใหม่​ จะต้องเป็นเหรียญปั๊มไม่ใช่เหรียญฉีดและขอบข้างเหรียญมีรอยตัดด้วยเครื่องที่คมชัด​ เส้นตัดที่ขอบข้างเหรียญจะต้องเห็นเส้นตัดคมชัดและมีร่องรอยการตัดด้วยเครื่อง​ แต่ของปลอมจะทำเส้นเสมือนว่าตัดแต่ตัวเส้นจะไม่คมชัด​ บวมและไม่เป็นธรรมชาติ
– การตอกโค้ด ตัวโค้ดต้องคมชัดลึก ไม่เบลอ
3.การพิจารณาวัสดุหรือโลหะที่สร้างต้องถูกต้อง
– รุ่นแรกเป็นเนื้อทองแดง ที่เป็นทองแดงยุคเก่า
– รุ่นหลังการพิจารณาเนื้อนวโลหะแก่ทอง​ หรือเหรียญทองแดงที่เป็นของยุคนั้น​ ประกอบกับสีของสนิมโลหะต้องตรงตามชนิดโลหะด้วยเสมอ
ทางเพจได้นำเหรียญนวะโลหะแก่ทองมาให้ท่านสมาชิกได้พิจารณาในรายละเอียดในทุกมุมมอง​ทั้งด้านหน้าและด้านหลังรวมทั้งขอบข้างเหรียญ เพื่อนำไปใช้ในการเปรียบเทียบกับเหรียญที่ท่านพบเจอ และยังได้นำภาพเหรียญปลอมมาเปรียบเทียบให้ชมเพื่อการพิจารณาให้เห็นความแตกต่าง
ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนทั้ง 3องค์ประกอบทุกครั้ง “พระเครื่องแท้” จะต้องมีสัดส่วนครบ 100% เท่านั้น
ท่านสามารถศึกษาพระเครื่องหมวดต่างๆเพิ่มเติมของ”พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา”แหล่งรวบรวมข้อมูลและสะสมพระพุทธรูป,พระบูชา,พระเครื่องทุกหมวดหมู่,เครื่องรางของขลังและเครื่องถ้วยโบราณจากแหล่งต่างๆที่หาชมยากและมากที่สุดของเมืองไทย ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นวิทยาทาน โดยไม่มีจุดประสงค์เพื่อการค้าหรือการพาณิชย์ใดๆมาแอบแฝง ได้ที่ช่องทาง
-เว็บไซต์​ www.puttharugsa.com
-ช่องยูทูป” พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา”