เหรียญหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ รุ่นที่ 3″รุ่นช้างปล้อง” พ.ศ.2504
เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ “รุ่นช้างปล้อง”
เป็นเหรียญรุ่นที่ 3 ที่ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2504 สำหรับเหรียญที่นำมาแสดงให้ชมมี 2ชนิดเนื้อโลหะคือเนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองแดงรมดำ
พระเหรียญโลหะหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ที่ได้เคยมีการจัดสร้างไว้โดยพระอาจารย์ทิม ธมมฺธโร ตั้งแต่ พ.ศ.2500-2509 นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2ประเภทใหญ่ๆตามรูปแบบของการสร้างคือแบบเหรียญตัดปั๊มและแบบเหรียญหล่อ
– เหรียญตัดปั๊ม มีทั้ง หมด 9แบบพิมพ์ คือ
1.รุ่นแรก(รุ่นเศียรโต) พ.ศ.2500
2.รุ่นที่ 2 พ.ศ.2503 เป็นเหรียญ”รูปไข่ใหญ่ข้างเม็ด”
3.รุ่นที่ 3 พ.ศ.2504 เป็นเหรียญ”รุ่นช้างปล้อง”
4.รุ่นที่ 4 พ.ศ. 2505 เป็นเหรียญปั๊ม”หลังตัวหนังสือ”(สร้างปีเดียวกับเหรียญหล่อหลังเตารีด)มีพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
5.รุ่นที่ 5 พ.ศ.2505 เป็นเหรียญ”รุ่นน้ำเต้า”
6.รุ่นที่ 6 พ.ศ.2506-2508 เป็นเหรียญ”รุ่นเม็ดแตง” หรือ”รูปไข่เล็ก”
7.รุ่นที่7 พ.ศ.2508 เป็นเหรียญ”รุ่น 5เหลี่ยม”
8.รุ่นที่ 8 พ.ศ.2508 เป็นรุ่น”เลื่อนสมณศักดิ์”
9.รุ่นที่9 พศ.2509 เป็น”รุ่นพุทธซ้อน”
– เหรียญแบบหล่อ มีแบบพิมพ์เดียวที่สร้างในปีพ.ศ.2505 คือรุ่น”หลังเตารีด”
การพิจารณา”เหรียญรุ่นช้างปล้องแท้” ที่ต้องมีครบ 3องค์ประกอบหลักคือ
1.อายุความเก่าต้องถูกต้องคือ 62ปี
ให้พิจารณาภาพรวมก่อนว่า เหรียญที่มีความเก่านั้น ผิวของเหรียญจะต้องเรียบตึง,มีความแห้งไม่ฉ่ำหรือไม่มีความชื้น แล้วค่อยไปพิจารณาแยกตามชนิดโลหะที่ใช้สร้าง
-เนื้ออัลปาก้าที่มีอายุ 62ปี จะต้องมีคุณสมบัติชัดเจนคือมีสีอมเหลืองให้เห็น ของใหม่จะดูวาว,ใหม่และสะท้อนแสงเวลามองหรือถ่ายภาพ แค่จุดนี้จุดเดียว ท่านสมาชิกก็สามารถแยกของใหม่(ปลอม)จากของแท้ได้แล้ว
– เนื้อทองแดงรมดำเก่าอายุ 62ปีนั้น ให้พิจารณา รมดำที่อยู่ผิวด้านนอกสุดจะต้องบางและดูแห้ง,สีดำจะต้องหม่นลง ดูไม่สดใหม่,ไม่มีความชื้น จุดที่มีผิวเปิดให้เห็นเนื้อทองแดงในจุดที่ถูกสัมผัสดูเป็นธรรมชาติ และสีของทองแดงเก่ารมดำนั้นจะต้องเป็น”สีน้ำตาลอมแดง” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถเห็นได้ในเหรียญเกจิอื่นๆเช่นกัน ส่วนสีของทองแดงรมดำใหม่นั้น รมดำหนาสีของทองแดงจะเป็นสีน้ำตาลธรรดาที่ต่างกันชัดเจน ใช้แยกจากของแท้ได้เช่นเดียวกัน
2.พิมพ์และวิธีการสร้างถูกต้อง
– การสร้างแบบตัดปั๊มยุคใหม่
1.เหรียญที่เห็นจะต้องมีผิวเรียบตึง,ไม่บวม มีร่องรอยเส้นรัศมีที่ขอบเหรียญจากการปั๊มให้เห็นบ้าง
2.ภาพรวมของพิมพ์จะคมชัด
3.เส้นตัดปั๊มที่ขอบข้างคมชัดเจน เส้นปลอมจะหนา,ใหญ่ไม่เป็นธรรมชาติ
4.หูเจาะด้านหลังเหรียญต้องปลิ้น,คม,บาง
– รายละเอียดพิมพ์นั้น ท่านสมาชิกจะเห็นว่าใน”เหรียญแท้”นั้นถึงแม้ว่าจะต่างเนื้อกัน ได้รับมาต่างเวลาและสถานที่กัน แต่รายละเอียดพิมพ์และการสร้างนั้นจะเหมือนกันทุกประการ
1.ด้านหน้าให้พิจารณารายละเอียดภาพรวมดูนิ่มตา,ชัดเจนทุกจุด
– จุดสังเกตสำคัญคือ”ช้างปล้อง”ที่อยู่2ข้างของหลวงปู่ ที่มาของชื่อรุ่น”ช้างปล้อง”นั่นมาจากราบละเอียดของช้างที่อยู่ทั้ง 2ข้างจะมีงวงช้างที่เป็น”ข้อ”หรือ”ปล้อง”สั้นๆชัดเจนต่อกันไม่ได้เป็นเส้นเดียว ของปลอมจะทำไม่เหมือน
2.ด้านหลังให้พิจารณารายละเอียดใบหน้าพระอาจารย์ทิม ที่ของปลอมจะถอดไม่เหมือน ทั้งมิติและรายละเอียด
– จุดพิจารณาที่สำคัญคือ จะมีเส้นแตกเป็นธรรมชาติที่หน้าอกด้านล่างซ้ายในจุดที่เป็นจีวรและสังฆาฏิ จุดนี้ของปลอมจะไม่มีหรือถ้ามีจะทำได้ไม่เหมือน
3.พิจารณาวัสดุหรือโลหะที่ใช้สร้างเหรียญ โลหะยุคเก่าจะต่างกับโลหะยุคปัจจุบันชัดเจน
– เนื้ออัลปาก้าหรือที่เรียกเนื้อช้อนส้อม จะต่างจากเนื้อเงิน,เนื้อตะกั่วหรือโลหะอื่นที่นำมาชุบนิเกิลที่สำคัญคือเนื้ออัลปาก้า เมื่ออายุเก่า 62ปีผิวจะออกเหลืองอ่อนๆ ส่วนเนื้อเงินจะมีสนิมดำ,เนื้อตะกั่วจะดำส่วนที่ชุบนิกเกิลจะวาวไม่มีสนิม
– เนื้อทองแดงรมดำ ให้พิจารณา
1.รมดำแท้ที่รมดำในเหรียญสมัยก่อนนั้น จะใช้วิธีการรมจริงๆ ดังน้ันเนื้อรมดำต้องบาง,เนื้อละเอียด แต่ของปลอมจะหนา,เนื้อหยาบและใช้บางครั้งใช้การพ่นสีแทน. จึงทำให้แตกต่างกัน
ให้ท่านพิจารณา 3หลักการนี้ให้ครบถ้วน. ก่อนที่จะสรุปสุดท้ายอีกครั้งหนึ่งว่า “แท้”หรือ”ปลอม”
ท่านสามารถศึกษาพระเครื่องหมวดต่างๆเพิ่มเติมของ”พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา”แหล่งรวบรวมข้อมูลและสะสมพระพุทธรูป,พระบูชา,พระเครื่องทุกหมวดหมู่และเครื่องรางของขลังแบบต่างๆที่หาชมยากและมากที่สุดของเมืองไทย ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นวิทยาทาน โดยไม่มีจุดประสงค์เพื่อการค้าหรือการพาณิชย์ใดๆมาแอบแฝง ได้ที่ช่องทาง
-เว็บไซต์ www.puttharugsa.com
-เฟสบุ๊คเพจ”พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา
-ช่องยูทูป” พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวพุทธรักษา”