ข้อมูลเพิ่มเติม
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จังหวัด ชลบุรี เป็นพระปิดตาที่มีค่าความนิยมสูงสุดของประเทศไทย ซึ่งทางเพจได้นำมาแสดงให้ท่านสมาชิกชมทุกแบบพิมพ์, ทุกเนื้อ, ทุกขนาด เพื่อให้ท่านสมาชิกจะได้นำไปใช้พิจารณาและศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการเก็บสะสมต่อไป
พระปิดตาของหลวงพ่อแก้ว นั้นเป็นพระเนื้อผงผสมว่านที่มีอายุการสร้างมากว่า 100ปี ตามชีวประวัติของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป และเท่าที่มีข้อมูลและประวิติการสร้างสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2กลุ่มใหญ่คือ
1.พระปิดตาที่มีแบบแม่พิมพ์ แบ่งย่อยออกได้เป็น 2แบบตามชนิดของวัสดุหรือมวลสารที่ใช้สร้างคือเนื้อผงผสมและเนื้อโลหะ(เนื้อชิน)
1.1พระปิดเนื้อผงผสมว่าน 108 ซึ่งเกิดจากการนำผงวิเศษทั้ง 5อย่างคือผงพุทธคุณ,อิทธเจ,มหาราช,ปถมังและตรีนิสิงเห ที่ใช้ในการสร้างพระเครื่องเนื้อผงยุคโบราณนำมาผสมกันกับเนื้อว่าน 108ที่เป็นไม้มงคลที่นำมาบดแล้วผสมกับเนื้องผงแล้วนำไปกดลงในแม่พิมพ์ที่ออกแบบเตรียมไว้ ที่มีทั้งแบบเนื้อผงคลุกรักและเนื้องจุ่มรัก ส่วนรักที่ใช้นั้นเป็นรักไทยสีดำ และส่วนใหญ่จะมีการลงชาด(สีแดงที่แทรกอยู่ในเนื้อรัก)อยู่เสมอ ทำให้บางท่านเข้าใจผิดและให้ความเห็นว่าเป็นรักจีนเพราะเห็นว่ามีสีแดง ซึ่งการลงชาดและรักนั้นมักจะมีการนำมาใช้รักษาเนื้อผงตั้งแต่สมัยโบราณที่เรียกกันติดปากว่า “ลงรัก ปิดทอง ร่องชาด” เนื่องจากชาดมีคุณสมบัติในการยึดติดกับเนื้อผงได้ดีกว่ารักจึงถูกนำมาใช้ร่วมกับชาดอยู่เสมอ
– พระเนื้อผงผสมว่านนั้นถ้าแบ่งตามขนาดจะแบ่งได้เป็น 3แบบได้แก่ พิมพ์ใหญ่, พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก
– พระเนื้อผงผสมว่านนั้นถ้าแบ่งตามแบบแม่พิมพ์ที่สร้างจะแบ่งได้เป็น 2แบบได้แก่ พิมพ์หลังแบบ และพิมพ์หลังเรียบ
1.2 พระปิดตาเนื้อชิน ที่พบมี 2ขนาด
-พิมพ์ใหญ่ มี 2แบบคือ หลังแบบและหลังเรียบ
-พิมพ์เล็ก มีเฉพาะหลังเรียบ
2.พระปิดตาแบบลอยองค์หรือที่เรียกกันว่าพิมพ์ปั้นด้วยมือ(ไม่มีแบบแม่พิมพ์) มีการสร้างทั้งที่วัดปากทะเล จ.เพชรบุรี และที่วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี พิมพ์ลอยองค์นี้เข้าใจกันว่าน่าจะเป็นพระปิดตาที่ท่านได้สร้างขึ้นในช่วงแรกๆ มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก, มีทั้งเนื้อผงจุ่มรักและเนื้อผงคลุกรัก การสร้างโดยใช้เนื้อผงผสมว่าน 108แล้วปั้นด้วยมือให้เป็นรูปร่างแล้วจึงตกแต่งรายละเอียดเป็นพระปิดตาด้วยเครื่องมือที่เป็นของมีคมเพราะร่องรอยที่เป็นส่วนลึกส่วนเว้านั้นมีเหลี่ยมมุมที่ค่อนข้างคมเป็นสันจากเครื่องมือที่ใช้ การพิจารณานั้นให้พิจารณาที่เนื้อผงผสม ทั้งที่คลุกรักเเละจุ่มรัก การพิจารณาเนื้อผงผสมต้องเก่า, เนื้อผงมีการหดตัวไม่เรียบตึงบวมเหมือนของใหม่ ในองค์จุ่มรักนั้นความเก่าถึงอายุของรักคือตัวบ่งชี้ได้เป้นอย่างดี ขอให้ท่านสมาชิกพิจารณาพระตัวอย่างที่ทางเพจนำมาแสดงให้ชมอย่างรอบคอบ ทั้งลักษณะของเนื้อผง, ลักษณะของพิมพ์ที่นิ่มตา, ความเก่าของรัก, สีของเนื้อผง, สีและเนื้อของรักไทย
การพิจารณานั้นอาศัยองค์ประกอบ 3ประการเช่นเดียวกันกับการพิจารณาพระเครื่องทุกหมวดก็คือ
1.อายุความเก่าต้องถูกต้องตามประวัติการสร้างคือมากกว่า 100ปี ซึ่งการพิจารณาความเก่านั้น เนื่องจากไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะใช้ตรวจสอบหาอายุความเก่าของเนื้อผงได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้ จึงทำให้มีผู้แอบอ้างได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องอาศัยการพิจารณาโดยการคาดคะเนโดยการเทียบเคียงจากความเก่าของวัสดุที่ใช้สร้างคือ
-ความเก่าของเนื้อผงผสมว่านโดยพิจารณาโดยใช้กล้องส่องขยายปกติธรรมดาก็เพียงพอ ให้พิจารณาความเก่าของเนื้อผงผสมว่านถ้าเป็นชนิดเนื้อผงคลุกรักที่เก่าสมอายุนั้น สีจะเป็นสีน้ำตาลอมดำเนื้อผงจะต้องมีการหดตัวมาก ผิวนอกจะไม่เรียบเพราะเนื้อผงผสมว่านเนื้อจะไม่ละเอียดเหมือนเนื้อผงล้วน(ของปลอม)ทำให้เห็นผิวขรุขระคล้ายๆผิวมะกรูด แต่ในองค์ที่เป็นเนื้อผงชุบรักหรือจุ่มรักที่บิเวณที่ผิวรักเปิดออกเห็นเนื้อผงด้านในจะมีสีน้ำตาลและผิวจะเรียบกว่าเนื้อผงคลุกรักเพราะมีรักปิดอยู่ตอนที่สร้างครั้งแรกเมื่อผิวรักหลุดหรือเปิดออกผิวจึงดูเรียบกว่า
-ความเก่าของรักและชาด โดยการพิจารณาธรรมชาติทั้งสี, เนื้อ, ความหนา และเมื่อกาลเวลผ่านไปกว่า 100ปีลักษณะของผิวที่จะต้องแห้งมากมีการยุบตัว,หดตัวจนเกิดการแตกรานที่ผิวให้เห็น ที่ของเลียนจะไม่มี ซึ่งจุดเหล่านี้จะต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วนและความรอบคอบโดยใช้กล้องส่องขยายดูที่ละจุดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ด้านข้าง
-ความเก่าของเนื้อโลหะ(ชิน)โดยพิจารณาความเก่าได้จากลักษณะทางกายภาพของไขสีขาวและสนิมสีแดงของเนื้ิอชินที่เก่าสมอายุ จะต้องมีให้พบเห็นและเป็นธรรมชาติไม่ใช่ไขและสนิมที่ตั้งใจทำขึ้นมา ซึ่งจะมีความแตกต่างจากที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ดังนั้นถ้าท่านไม่เคยเห็นไขและสนิมเนื้อชินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอาจจะทำให้หลงทางจากกลุ่มคนที่ทำเลียนแบบขึ้นมาได้
2.วัสดุและมวลสารที่สร้างต้องถูกต้อง ต้องทราบลักษณะทางกายภาพของเนื้อผงผสมว่าน, รักและชาดในสมัยโบราณกว่า100ปี เพราะพระเลียนแบบจะมีเนื้อผงและรักที่ใหม่และลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันชัดเจน ซึ่งเนื้อผงผสมนั้นจะมีเนื้อค่อนข้างหยาบมีสีขาวอมเหลืองเมื่อคลุกกับรักไทยที่มีสีดำจะเห็นเนื้อผงเป็นสีน้ำตาล แต่ของปลอมเนื้อจะเป็นปูนละเอียดและสีจะทำขึ้นดูผิดธรรมชาติ
3.รายละเอียดพิมพ์และวิธีการสร้างต้องถูกต้อง
-รายละเอียดพิมพ์ที่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นพระที่ที่มีการออกแบบแม่พิมพ์ชัดเจน(ยกเว้นในพิมพ์ลอยองค์, พิมพ์ปั้น)ดังนั้นรายละเอียดพิมพ์จึงมีความจำเป็นในการพิจารณาเสมอ องค์พระต้องสมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยวผิดรูปแบบ, แหว่ง, รายละเอียดต่างๆต้องมีความชัดเจนจากการหดตัวของเนื้อผงผสม, มีความงดงาม, มีมิติ, นิ่มตาในภาพรวม ถ้าท่านได้เคยพิจารณาของแท้จะทราบความแตกต่างในรายละเอียดได้ “ในของปลอมกับของแท้จะมีรายละเอียดครบเท่ากันก็จริง แต่ถ้าพิจารณาลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน ซึ่งบางครั้งยากจะอธิบายออกมาให้ละเอียดเป็นข้อความได้ แต่ที่มีการใช้คำบอกเล่าที่เข้าใจได้ดีคือ รายละเอียดของพระแท้จะมี”ความนิ่มตา”กว่าชัดเจน”
-รูปแบบและวิธีการสร้างที่ถูกต้องซึ่งมีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะถ้าวิธีการสร้างผิด ทุกอย่างที่เหลือตามมาก็จะผิดหมด คำว่าพระกดพิมพ์ก็ต้องมีแบบพิมพ์ รายละเอียดต่างๆต้องเกิดจากการออกแบบของช่างศิลป์ ความงดงาม, รายละเอียดของพิมพ์คือจุดบ่งชี้ความแท้ปลอมได้ระดับหนึ่ง แต่วิธีนี้จะใช้กับกลุ่มคนที่เอาของเลียนแบบมาแอบอ้างว่าเป็นของแท้ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีจุดตัดสินที่แน่นอนเขาเหล่านั้นก็จะบอกว่าของเขาแท้ จึงไม่มีที่สิ้นสุด จึงต้องใช้หลักการของอายุและเรื่องมวลสารมาใช้ประกอบในการตัดสินใจต่อไป
การพิจารณาหาจุดที่ชี้วัดความแท้หรือปลอมของพระเนื้อผงผสมในปัจจุบันนี้ นับว่ายากมากสำหรับผู้ที่เข้ามาศึกษาใหม่ เพราะปัจจุบันมีการทำปลอมออกมาหลายรูปแบบและเอาชื่อเสียงและกลุ่มบุคคลมาเป็นตัวชี้วัดมากกว่าการพิจารณาองค์ประกอบที่องค์พระเป็นหลัก ทำให้เกิดความเสียหายมากในปัจจุบันและต่อๆไปอนาคต ดังนั้นขอให้ท่านสมาชิกใช้ความรอบคอบด้วยสติและใช้ปัญญาในการศึกษาและพิจารณาด้วยหลัักการอย่างแท้จริง