เหรียญรุ่นต่างๆของ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ขอนำพระเครื่องของหลวงปู่ทวด​ วัดช้างให้​ จ.ปัตตานี​ ที่ถูกสร้างขึ้นเฉพาะในสมัยที่พระครูวิสัยโสภณ(อาจารย์​ ทิม​ ธม​มฺธโร)​เป็นเจ้าอาวาส​อยู่ในขณะนั้น เเละจะนำเฉพาะชนิดที่เป็นเหรียญโลหะ​รุ่นต่างๆเริ่มตั้งแต่เหรียญรุ่นแรกจนถึงรุ่นสุดท้าย​ ซึ่งทางเพจนำมาให้ศึกษาทั้งหมด​ 15เหรียญซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเหรียญ”เนื้อทองคำ”และ”เนื้อเงิน”ที่หาชมของแท้ได้ยากมากมาให้ชม​ โดยเรียงตามประวัติที่สร้างไว้
จากประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด​ ที่พระอาจารย์ทิม​ เจ้าอาวาสวัดช้างให้​ ที่ได้มีการสร้างขึ้นครั้งแรกในปีพ.ศ.2497​ เนื่องจากท่านต้องการปัจจัยเพื่อใช้ในการสร้างพระอุโบสถ​ แต่พระเครื่องที่สร้างนั้นเป็นพระเนื้อว่านทั้งหมด สำหรับเหรียญโลหะนั้นเริ่มมีการสร้างขึ้นมาตามลำดับดังนี้(ขอกล่าวสรุปสั้นๆ)​
1.​ รุ่นปีพ.ศ.2500​ -​ 2501ที่เรียกกันว่า”รุ่นเศียรโต”ซึ่งถูกสร้างครั้งแรกในพ.ศ.​ 2500​ ซึ่งสร้างเฉพาะเนื้อทองแดง​เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน​ ทางวัดจึงได้สร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกในพ.ศ.2501​ โดยใช้บล็อคแม่พิมพ์เดียวกันกับชุดแรก​ทุกประการ โดยสร้างเป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง, เนื้อทองแดงกะไหล่เงินและเนื้อเงิน​ ซึ่งทางเพจได้นำมาให้ชม​จำนวน​ 4เหรียญ​คือ
-​เนื้อทองแดง
-​เนื้อเงิน
-​เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง
-​เนื้อทองแดงกะไหล่เงิน
2.รุ่นปีพ.ศ.2503​ เป็นเหรียญรูปทรงรีหรือรูปไข่ซึ่งเรียกว่า”รุ่นไข่ใหญ่ข้างเม็ด” ตามรูปร่างและพิมพ์ที่พบเห็น​ ซึ่งทางเพจนำมาให้ชม 1เหรียญ​ ซึ่งเป็นเนื้อเงินที่หาชมยากมาก
3.รุ่นปีพ.ศ.2504​ เรียกว่า”รุ่นช้างปล้อง” ซึ่งเรียกชื่อตามลักษณะที่เห็นของงวงช้างที่มีรูปร่างเป็นปล้องหรือท่อนเล็กๆต่างจากงวงช้างในพิมพ์ทั่วๆไป ทางเพจได้นำให้ชม​ 2เหรียญคือ
-เนื้อเงิน
-เนื้อทองแดงรมดำ
4.รุ่นปีพ.ศ.2505​ ซึ่งเป็นปีที่นักสะสมพระเครื่องรู้จักคุ้นเคยมากที่สุดรุ่นหนึ่งเพราะมีการสร้างพระเครื่องเนื้อโลหะที่เป็นที่นิยมมากไว้ถึง​ 3รุ่นคือ
-หลังเตารีด (หล่อช่อ)
-หลังตัวหนังสือ(ตัดปั๊ม)
– เหรียญ”รุ่นน้ำเต้า”
ซึ่ง2ชนิดแรกนั้นทางเพจได้นำมาให้สมาชิกได้ชมไปครั้งล่าสุดเรียบร้อยแล้ว​ ครั้งนี้จึงขอนำเหรียญรุ่นน้ำเต้ามาให้ชม​เพิ่มเติมจำนวน 1เหรียญ
5​.รุ่นปีพ.ศ.2506​ เป็นเหรียญที่มีขนาดเล็กที่สุดเรียกว่า”รุ่นเม็ดแตง” ทางเพจนำมาให้ชม​ 3เหรียญ
-เนื้อเงินลงยาสี​ ที่หาชมได้ยาก​มากๆ​ 1เหรียญ
-เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิล​ 2เหรียญ
6.รุ่นปีพ.ศ.2508​ มีการสร้างไว้​ 2รุ่นคือ
6.1เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์​ ทางเพจนำมาให้ชม​ 2เหรียญ
-เนื้อทองคำแท้​ 1เหรียญซึ่งหาชมของแท้ได้ยากที่สุดในบรรดาเหรียญลป.ทวด​ ทั้งหมด
-เนื้อทองแดงรมดำ​ 1เหรียญ
6.2 เหรียญ​ 5เหลี่ยมหรือที่เรียกกันติดปากว่า”รุ่นแจกปีนัง” เป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง​ 1เหรียญ
7.รุ่นปีพ.ศ.2509​ เรียกว่า”รุ่นพุทธซ้อน” ทางเพจนำมาให้ชม​ 1เหรียญ
ตามประวัตินั้นพระอาจารย์ทิม​ ธมมฺสโร​ ได้เริ่มอาพาธในปีพ.ศ.2510และได้มรณภาพลงในปีพ.ศ.2512
หลักการพิจารณาพระเหรียญของหลวงปู่ทวดนั้นก็เหมือนเดิมคือใช้หลักการ​ 3ข้อ
1.พิจารณารายละเอียดพิมพ์และวิธีการสร้างเหรียญ
-รายละเอียดพิมพ์นั้นเป็นพระเหรียญ​ปั้มนูนสูงยุคใหม่​ รายละเอียดพิมพ์ต้องงดงาม​ การปั๊มจะต้องคมชัด, ผิวเรียบตึง​ ส่วนรายละเอียดพิมพ์ของเหรียญรุ่นต่างๆนั้นทางเพจได้นำมาลงให้ชมโดยละเอียดให้ท่านนำภาพไปเป็นองค์เปรียบเทียบได้โดยละเอียด
-วิธีสร้างคือ”ตัดปั๊ม” ยุคใหม่​ ดังนั้นจุดสำคัญของพระเหรียญปั๊มคือ​
-​ความคมชัดเจน, ร่องรอยการปั๊มที่พระฉีดไม่มี, ผิวเรียบตึงในเหรียญปั๊มส่วนพระฉีดจะบวมเบลอ
-ขอบข้างเหรียญจะต้องมีรอยตัดของเครื่อง​ ขอบเหรียญจะต้องไม่เรียบและไม่ใช่เป็นแค่รอยแต่งให้เห็นเป็นเส้นๆให้ดูคล้ายว่าเป็นรอยตัดด้วยเครื่องซึ่งจะต่างกันมากถ้าพิจารณาให้รอบคอบ
2.พิจารณาอายุและความเก่าเหรียญโลหะ​ ซึ่งเป็นจุดพิจารณาที่สำคัญมากอีกจุดหนึ่งที่ปลอมแปลงไม่ได้​ และผู้ศึกษามือใหม่จะแยกไม่ออกและไม่ค่อยให้ความสำคัญ​นำมาพิจารณากัน
ความจริงแล้วอายุเหรียญเป็นสิ่งแรกที่เราจะต้องพบเจอเวลาที่เราศึกษาพระเหรียญปั๊ม​ สำหรับท่านที่มีประสบการณ์แค่พิจารณาความเก่าก็ทราบแล้วว่่าเหรียญเก่าหรือใหม่ซึ่งก็หมายถึงเป็นเหรียญแท้หรือปลอม​ จึงไม่จำเป็นต้องไปดูรายละเอียดอีก2ข้อแล้ว​ สามารถที่จะตัดสินใจได้เลย
จุดพิจารณาความเก่านี้​ จะต้องเป็นธรรมชาติโดยให้พิจารณาดังนี้
-อายุเหรียญที่เก่ามากผิวจะเรียบตึงหดตัวมาก
-อายุเหรียญที่เก่ามากสนิมที่ผิวจะมากขึ้นตามลำดับพระใหม่จะไม่มีสนิมหรือถ้าทำสนิมขึ้นมาก็จะดูผิดธรรมชาติ​
-อายุเหรียญเก่ามากผิวโลหะจะแห้งมากไม่เป็นมันวาวเหมือนที่เห็นในพระใหม่
-อายุเหรียญที่เก่ามากผิวที่เคลือบไว้จะสึกกร่อน​จากการสัมผัส สีจะหม่นหรือซีดลงเช่นองค์ที่ชุบนิกเกิล, กะไหล่เงินและกะไหล่ทอง​ จะเห็นร่องรอยของผิวที่เปิดจากการสัมผัสและการหม่นลงจากการสัมผัสอากาศและเกิดสนิมเป็นธรรมชาติ
3.พิจารณาวัสดุหรือโลหะที่สร้างว่าถูกต้องหรือไม่​ เช่นเหรียญทองคำและเหรียญเงินจะต้องเป็นทองคำและเงินแท้​ ซึ่งปัจจบันุมีเครื่องมือตรวจสอบได้สะดวก, รวดเร็วและราคาไม่แพง​ สนิมทองคำและสนิมเงินจะต้องมีให้เห็นสีสนิมทองคำจะสีน้ำตาลอมดำ​ สนิมเงินสีดำ​ ความเข้มของสนิมหนาบางเป็นธรรมชาติของปลอมทำไม่เหมือน การพิจารณากะไหล่ทองและกะไหล่เงินที่ถูกต้อง​ ซึ่งลักษณะของกะไหล่จะต้องบางของใหม่จะหนามากเมื่อเทียบกัน​ มือใหม่อาจจะแยกได้ลำบากส่วนสีของกะไหล่จะต้องเก่าไม่มันวาวเป็นต้น
ขอให้ท่านสมาชิกศึกษาด้วยปัญญา​ ด้วยหลักการและเหตุผลอย่าเชื่อในตัวบุคคล, กลุ่มบุคคล​ เพราะโลหะนั้นมีคุณสมบัติที่แน่นอน​ พิสูจน์ได้​ ไม่มีใครมาหลอกเราได้​ ไม่ดิ้นหรือตะแบงไปข้างคูๆได้เหมือนพวกเนื้อดิน, เนื้อผง, เนื้อว่านฯลฯ
ทางเพจขอย้ำเช่นเดิมครับพระเหรียญทั้งเป็นของทางเพจทั้งหมดไม่ได้นำภาพหรือพระเครื่องของผู้อื่นมาให้ข้อมูลแต่อย่างใด และไม่มีการซื้อขายใดๆทั้งสิ้นแต่เพื่อเป็น​”วิทยาทาน” สำหรับผู้ที่สนใจเท่านั้นครับ​ ท่านที่เห็นว่าข้อมูลเป็นประโยชน์ช่วยกดถูกใจ, แชร์ต่อกับผู้อื่นและกดติดตามด้วยครับ