ข้อมูลเพิ่มเติม
ขอนำ”เหรียญครูบาศรีวิชัยรุ่นแรกพ.ศ.2482″ และเหรียญ”สมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์พ.ศ.2481″ มาให้ท่านสมาชิกได้ศึกษาและพิจารณา สาเหตุที่นำมาให้ศึกษาพร้อมกันนั้นเนื่องมาจากทั้ง 2เหรียญนี้มีการสร้างและปลุกเสกพร้อมกัน ณ วัดราชบพิธ ในปีพ.ศ.2481แม้ว่าบนเหรียญจะมีพ.ศ.ที่ต่างกันก็ตาม
เหรียญครูบาศรีวิชัย รุ่นแรกนี้ถือว่าเป็น1ใน”เหรียญตาย” ซึ่งหมายถึงเหรียญที่สร้างหลังจากท่านได้มรณภาพไปแล้ว สำหรับเหรียญที่จะนำมาให้ศึกษาทั้งหมดมี 4เหรียญ
1.เหรียญสมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์1เหรียญเป็นเหรียญเนื้อทองเหลืองกะหลั่ยทอง
2.เหรียญครูบาศรีวิชัย รุ่นแรก พิมพ์ 2ชายจำนวน 3เหรียญ
-เนื้อทองคำแท้ 1เหรียญ
-เนื้อทองเหลือง 1เหรียญ
-เนื้อทองแดงรมดำ 1เหรียญ
เหรียญทั้งหมดมีการสร้างเหมือนกันคือเป็นเหรียญเลื่อยข้างปั๊มกระบอกและหูเชื่อมภายหลัง โดยมีหลักการและวิธีพิจารณาคือ
1.พิมพ์และวิธีการสร้าง
-การพิจารณาพิมพ์นั้นศิลปะจะเป็นแบบค่อนข้างนูนต่ำ ช่างจะแกะรายละเอียดพิมพ์ได้ละเอียด, สมบูรณ์, ชัดเจนและสวยงาม ทำให้พิมพ์นำไปพิจารณาเทียบกับของปลอมได้ง่ายและชัดเจนดังนั้นขอให้ท่านสมาชิกได้ศึกษาและเรียนรู้พิมพ์ให้แม่นยำติดตาไว้ โดยให้พิจารณาทุกส่วนไม่ใช่เฉพาะจุดตำหนิที่เคยแนะนำกันมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกหลอกได้ง่าย ซึ่งจุดรายละเอียดต่างๆได้มีภาพแนะนำไว้เรียบร้อยเช่น รายละเอียดของใบหน้าที่มีเม็ดเล็กๆที่หน้าผากด้านขวาของท่าน, ความมีมิติของเส้นสายต่างๆเป็นนูนต่ำของปลอมจะนูนสูงและดูแข็งๆไม่นิ่มตา
-จุดตำหนิที่ไม่ใช่พิมพ์
1.พื้นเหรียญด้านหน้ามีลักษณะเป็นแอ่งกระทะเว้าลงไปเล็กน้อย ของปลอมจะเป็นพื้นเรียบ
2.พื้นเหรียญด้านหลังจะเรียบ แต่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะคือเส้นหรือรอยคล้ายเส้นสายฟ้าที่เกิดจากบล็อคให้เห็นใกล้ขอบเหรียญด้านซ้ายมือเราโค้งขึ้นด้านบนจะชัดเจนกว่าส่วนด้านขวามือเราจะเห็นลางๆ
-การพิจารณาการสร้างเนื่องจากเป็นเหรียญปั๊มดังนั้น
1.ผิวต้องเรียบตึงไม่ขรุขระ,ไม่บวม
2.รายละเอียดพิมพ์ต้องคมชัดติดทุกรายละเอียดไม่เบลอ
3.ขอบเหรียญจะเห็นรอยเลื่อยลางๆในบางจุดและค่อนข้างเรียบในบางจุดแต่ไม่ใช่ขอบเรียบทั้งหมดถือว่าผิดปกติของขอบเลื่อยข้างปั๊มกระบอก “ของปลอมมักจะทำขอบเรียบและทำขีดเล็กๆบางจุดให้ดูเหมือนรอยเลื่อย แต่ไม่ได้เลื่อยจริง” “รอยเลื่อยจริงจะอยู่ลึกลงไปกว่าขอบเรียบเพราะเลื่อยแผ่นก่อนแล้วค่อยนำมาปั๊ม แต่รอยเลื่อยปลอมขีดรอยเลื่อยจะอยู่ส่วนบนของขอบเรียบเนื่องจากมาทำขีดภายหลังและรอยเส้นเลื่อยไม่เป็นธรรมชาติ”
4.หูเชื่อมน้ำประสานต้องเก่าและเป็นการเชื่อมที่เรียบร้อย
2.อายุความเก่าของเหรียญใช้การพิจารณา
-ความเก่าดูได้จากสนิมหรือคราบเก่าที่ผิวเหรียญ จะต้องเป็นสนิมหรือคราบเก่าเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ ส่วนของปลอมจะใช้น้ำยามาช่วยทำให้ดูเก่า ถ้าผู้ที่ชำนาญจะพิจารณาได้ง่ายและรวดเร็ว
สนิม,กะหลั่ยทองและรมดำที่ทำเก่า(ปลอม) จะแยกกันได้ดังนี้
1.ความหนาของสนิม,กะหลั่ยทองและรมดำที่ทำใหม่จะหนาผิดธรรมชาติมากดูเลอะเทอะและหนาเทอะทะ
2.สีปลอมทำใหม่จะสดกว่าสีสนิม, กะหลั่ยทองหรือรมดำ ปกติ
3.ความชื้น,ความฉ่ำที่ผิวเหรียญของปลอมจะมีมากกว่า, ปกติเหรียญของแท้จะแห้ง
4.การเกิดสนิมจะไม่เท่ากันทุกจุดเพราะค่อยๆเกิดตามระยะเวลาที่ต่างกันแต่ของใหม่สนิมจะเท่ากันทุกจุดเพราะทำขึ้นพร้อมกัน
-ความเก่าดูได้จากความเรียบตึงหดตัวของผิวเหรียญ ของใหม่จะบวม
-ความเก่าดูได้จากกะหลั่ยทอง, รมดำจะแห้งและบางซึ่งสีจะต้องดูหม่นลงชัดเจนและมีการหลุดหรือผิวเปิดในจุดสัมผัสที่เป็นธรรมชาติตามกาลเวลา
3.เนื้อโลหะ,กะหลั่ยทองและรมดำที่ใช้สร้างต้องถูกต้องตรงยุคสมัย
-เนื้อทองคำต้องเช็ค%ได้ด้วยเครื่องตรวจโลหะได้ไม่ต่ำกว่า80%,สีของทองคำต้องเหลืองสุกกว่าทองคำในปัจจุบันสังเกตได้จากสนิมทองที่เป็นสีน้ำตาลเข้มอมดำ
-กะหลั่ยทองที่ทำเคลือบผิวต้องบางและสีเหลืองเข้มดูเก่าสีหม่นลงสมอายุ
-เนื้อทองเหลืองต้องสีเหลืองเข้มอมเขียวเล็กน้อยและเนื้อทองเหลืองจะต้องเก่าสมอายุ
-เนื้อทองแดงรมดำสีจะต้องเป็นน้ำตาลเข้มอมดำ รมดำจะบาง ในเหรียญปลอมเนื้อทองแดงจะออกสีน้ำตาลอมส้ม ดูใหม่ชื้นและบวม