
ในปัจจุบันนี้เหรียญหล่อโบราณนับวันจะยิ่งหาตัวอย่างของแท้มาเป็นองค์ต้นแบบให้ผู้ที่ต้องการศึกษาได้ยากมาก เนื่องจากในอดีตมีการสร้างพระมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับเหรียญปั๊มเนื่องจากขั้นตอนการสร้างที่ซับซ้อนและยุ่งยากกว่าและนอกจากนั้นยังมีการสร้างของเลียนแบบขึ้นมาเป็นจำนวนมากทำให้เกิดเป็นปัญหาใหญ่อยู่ในปัจจุบันนี้
เช่นเดียวกับการศึกษาพระเครื่องชนิดอื่นๆในการศึกษาพระเหรียญหล่อโบราณนั้นท่านจำเป็นจะต้องมีพื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะทำให้ท่านศึกษาได้รวดเร็วและเข้าใจได้อย่างมีเหตุผล ประวัติการสร้างพระเหรียญหล่อโบราณเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่อาจจะทราบได้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นประมาณในสมัยรัชกาลที่5ที่เริ่มมีการสร้างพระเครื่องเหรียญโลหะชนิดปั๊มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ.2440 สำหรับเหรียญหล่อในยุคแรกที่ส่วนใหญ่รู้จักคุ้นเคยกันในสมัยนั้นจะมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากได้แก่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร และหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม สำหรับประวัติเหรียญหล่อของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกรุ่นแรกนั้นเริ่มมีการสร้างในพ.ศ.2440 ส่วนเหรียญหล่อของหลวงพ่อเงินนั้นไม่ทราบประวัติแน่ชัดแต่น่าจะใกล้เคียงกันเพราะท่านมรณภาพห่างกันเพียง3ปีคือปีพ.ศ.2459และพ.ศ.2462คือประมาณ100ปีล่วงมาแล้วอย่างไรก็ตามก็ถือว่าทั้ง2เหรียญเป็นเหรียญแรกๆของเหรียญหล่อโบราณที่ปัจจุบันหาชมของแท้ได้ยากมาก ต่อมาจึงได้มีการสร้างเหรียญหล่อขึ้นมาในระยะหลังต่อเนื่องมาเช่นในยุคปีพ.ศ.246..ได้แก่ เหรียญหล่อหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง จ.ปทุมธานี เหรียญหล่อหลวงปู่สุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชันนาท เหรียญหล่อหลวงพ่อศรีสวรรค์ วัดนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ในปีพ.ศ.247..ได้แก่ เหรียญหล่อหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี เหรียญหล่อหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง จ.กรุงเทพมหานคร และเหรียญหล่อหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม เป็นต้น
ขั้นตอนการสร้างเหรียญหล่อโบราณ
– การออกแบบเหรียญหล่อโดยช่างศิลป์ตามความต้องการของผู้สร้างเป็นอันดับแรก
-การแกะพิมพ์ตามแบบที่ร่างไว้โดยการปั้นด้วยขี้ผึ้ง,เทียนหรือดินเหนียวเป็นองค์ต้นแบบและทำการแก้ไขจนพอใจ จะได้เป็น”แกนหุ่น” สำหรับนำไปสร้างตามขั้นตอนต่อไป
-การทำบล็อคแม่พิมพ์โดยการถอดแบบจากแกนหุ่นที่เตรียมไว้ด้วยขี้ผึ้งซึ่งจะได้เป็นบล็อคแม่พิมพ์จำนวนมากเท่าที่ต้องการโดยใช้ต้นแบบเพียงองค์เดียวไม่ต้องไปสร้างอง์ต้นแบบขึ้นมาใหม่
-การนำบล็อคแม่พิมพ์หลายๆบล็อคที่ถอดไว้แล้วมาติดที่ช่อเพื่อทำการหล่อต่อไปแต่ก่อนที่จะติดกับช่อช่างจะต้องนำแต่ละบล็อคมาต่อกับชนวนเสียก่อนเพื่อเป็นช่องให้ขี้ผึ้งหลอมละลายออกมาและให้โลหะหลอมเหลวไหลเข้าบล็อค
-การนำดินนวลมาผสมกับขี้วัวหรือบางวัดจะใช้ขี้นกเขาเป้า มาทาพอกทับบล็อคแม่พิมพ์แต่ละอันที่ติดอยู่กับช่อ รอจนดินแห้งสนิทจึงนำดินเหนียวมาทาทับด้านนอกอีกชั้นหนึ่งแล้วรอจนดินเหนียวแห้งและแข็งได้ที่จึงเริ่มขั้้นตอนต่อไป
-การนำช่อที่เตรียมไว้จากขั้นตอนก่อนหน้ามาเผาด้วยไฟ เมื่ออุณภูมิร้อนจนได้ที่ขี้ผึ้งที่อยู่ด้านในจะหลอมละลายออกมาทางรูชนวนที่ต่อไว้ทำให้เกิดเป็นช่องว่างอยู่ด้านใน จากนั้นจึงนำโลหะหลอมเหลวที่เตรียมไว้มาเทลงในช่องชนวนที่ขี้ผึ้งไหลออกมาเพื่อให้โลหะเหลวเข้าไปแทนที่จนเต็ม จากนั้นรอเวลาจนโลหะเหลวที่เทเข้าแม่พิมพ์เย็นลงและแข็งตัวเต็มที่
-การทุบเบ้าดินเหนียวด้านนอกออกไปก็จะได้เหรียญหล่อที่ติดอยู่กับช่อโลหะ หลังจากนั้นจึงใช้เลื่อยโลหะตัดเหรียญหล่อออกจากกิ่งของช่อทีละองค์ก็จะได้เหรียญหล่อตามที่ต้องการ
-การตกแต่งขั้นสุดท้าย เนื่ิองจากเวลาที่ช่างตัดเหรียญออกจากกิ่งของช่อหล่อโดยการเลื่อยนั้นบริเวณใต้ฐานเหรียญจะไม่เรียบเสมอกันทุกเหรียญจะมีส่วนของกิ่งที่ติดอยู่เป็นเนื้อเกินขึ้นมา ช่างจึงต้องมีการตกแต่งโดยใช้ตะไบเหล็กขนาดเล็กมาตะไบแต่งอีกครั้งหนึ่งเพื่อความเรียบร้อยและสวยงาม จากการศึกษาที่ผ่านมาจะพบการตะไบตกแต่งบริเวณใต้ฐานตรงจุดที่เชื่อมต่อของเหรียญกับกิ่งช่อหรือบางเหรียญที่มีการตะไบเกินมาบางส่วนของฐานและบางเหรียญที่ตะไบตลอดทั้งแนวใต้ฐาน
รูปภาพแสดงการหล่อช่อของเหรียญหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ หลังเตารีด ปี2505
ข้อสังเกตที่ข้าพจะขอแนะนำเป็นข้อมูลสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการศึกษาเหรียญหล่อโบราณที่ท่านควรจดจำและสามารถนำมาแยกแยะของแท้ออกจากของปลอมได้คือการพิจารณา”หูเหรียญ” ซึ่งท่านจะเห็นวิวัฒนาการของการสร้างของแต่ละยุคต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต้องจดจำไปใช้
การแบ่งชนิดของเหรียญหล่อโบราณโดยดูจากหูเหรียญแบ่งได้เป็น4แบบ
1.เหรียญหล่อโบราณชนิดไม่มีหู เหรียญหล่อประเภทนี้จะมีการสร้างเฉพาะตัวเหรียญโดยไม่มีการสร้างหูเหรียญขึ้นมาแต่อย่างใดตัวอย่างเช่น เหรียญหล่อหลวงพ่อทา วัดเพนียงแตก รุ่น1ปีพ.ศ.2440 และเหรียญหล่อหน้าเสือหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม ปีพ.ศ.2498
เหรียญหล่อหลวงพ่อทา วัดเพนียงแตก รุ่น1
เหรียญหล่อหน้าเสือหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม
2.เหรียญหล่อโบราณชนิดที่มีหูในตัวอยู่ในแนวขวางกับขอบเเหรียญ แบ่งได้เป็น2แบบคือ
2.1 เหรียญหล่อที่เหรียญสร้างจากบล็อค2บล็อค คือ 1.บล็อคตัวเหรียญ 2.บล็อคหูเหรียญ
เหรียญที่สร้างลักษณะนี้จะมีลักษณะเฉพาะของหูเหรียญคือเราจะเห็นรอยปลิ้นของเนื้อโลหะที่ด้านหลังเหรียญบริเวณที่หูเชื่อมติดกับพื้นเหรียญที่เรียกว่า”ตัวปลิง”ตัวอย่างของเหรียญนี้ได้แก่ เหรียญหล่อจอบเล็กและจอบใหญ่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร และเหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง จ.นครปฐม
ท่านจะเห็นลักษณะปลิ้นของโลหะที่เรียกว่า”ตัวปลิง” ที่หูด้านหลัง ซึ่งลักษณะเฉพาะนี้ของปลอมจะทำออกมาได้ไม่เหมือนเราสามารถนำจุดนี้ไว้ช่วยพิจารณาได้
ลักษณะของหูเรียญที่เรียกว่า”ตัวปลิง” ของเหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง
2.2เหรียญหล่อที่การสร้างเหรียญใช้บล็อคเพียงบล็อคเดียวในการหล่อทั้งหูเหรียญและตัวเหรียญตัวอย่างเช่น เหรียญหล่อหลวงพ่อห้อง วัดช่องลม จ.ราชบุรี พ.ศ.2465จะเห็นว่าหูเหรียญจะไม่มีรอยปลิ้นที่ด้านหลังที่เรียกว่าตัวปลิง
3. เหรียญหล่อโบราณชนิดที่มีหูในตัวอยู่แนวขนานกับขอบเหรียญ ซึ่งมีการหล่อของหูเหรียญขึ้นมาพร้อมกับตัวเหรียญในขณะที่สร้างตัวอย่างเหรียญปรัเภทนี้ได้แก่เหรียญหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน ปีพ.ศ.2477 เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพงรุ่น2
4.เหรียญหล่อโบราณชนิดหูเชื่อม เหรียญชนิดนี้จะมีการหล่อเฉพาะตัวหรียญเท่านั้นแล้วจึงนำหูหรือห่วงมาเชื่อมติดในภายหลังตัวอย่างของเหรียญประเภทนี้ได้แก่ เหรียญหล่อเจ้าสัวหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ปีพ.ศ.2475
จะพบการเชื่อมห่วงหรือหูเหรียญในแนวขวางกับขอบเหรียญ และจะสังเกตเห็นรอยเชื่อมด้วยน้ำประสานทองได้อย่างชัดเจน
ข้อสรุปและข้อชี้แนะในการศึกษาเหรียญหล่อโบราณ
1.ต้องระลึกอยู่เสมอว่าการพิจารณาเหรียญหล่อโบราณนั้นก็เหมือนกับพระเครื่องทุกชนิดคือต้องมีอง์ประกอบหลัก3ประการครบถ้วนคือ
1.1ต้องทราบผู้สร้างหรือยุคสมัยที่สร้างเพื่อจะได้ทราบอายุของเหรียญหล่อที่สร้าง
1.2ต้องมีรายละเอียดของศิลปะครบถ้วน(คมชัด มีมิติ อ่อนช้อย งดงามในรายละเอียด)
1.3ต้องมีมวลสารและวัสดุที่นำมาสร้างต้องถูกต้องตามประวัติการสร้างตามยุคสมัยของเหรียญ
2.มักจะมีคำพูดหรือข้อความเกี่ยวกับการศึกษาเหรียญหล่อโบราณให้พบเห็นอยู่เสมอในสื่อต่างๆว่า”เหรียญหล่อโบราณมักจะมีรายละเอียดไม่คมชัด ไม่สมบูรณ์ พิมพ์ตื้นเนื่องด้วยการสร้างนั้นเป็นภูมิปัญญาเเละเครื่องมือของชาวบ้าน” คำพูดนี้ทำให้เป็นช่องโหว่ของพวกที่ทำพระปลอมขึ้นมาซึ่งไม่สามารถทำพระได้คมชัดเหมือนของแท้มาเป็นข้ออ้างเเละใช้เป็นช่องทางหากินกับผู้ที่ไม่มีประสบการฌ์ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยเพราะเหตุผลที่ว่าการออกแบบแม่พิมพ์ของดหรียญหล่อนั้นน่าจะเป็นของช่างศิลป์หรือผู้ที่มีความรู้ทางศิลปะมาเป็นอย่างดีหรือบางครั้งอาจเป็นช่างหลวงไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปจึงจะสามารถสร้างได้ ตัวอย่างเช่นเหรียญหล่อหลวงทา วัดเพนียงแตกรุ่น1ในปี2440นั้นองค์พระจะมีความงดงาม มีมิติ มีรายละเอียดของศิลปะที่อ่อนช้อยมากซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของช่างหลวง เนื่องจากหลวงพ่อทาในสมัยนั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติชอบองค์หนึ่งในจำนวนหลายๆองค์ที่รัชกาลที่5ทรงนับถือเป็นอย่างมากและจะได้รับพระบรมราชาณุญาตให้เข้าร่วมในพระราชพิธีปลุกเสกสำคัญๆทุกครั้ง ดังนั้นท่านจึงไม่ใช่พระสงฆ์สามัญทั่วไปเช่นเดียวกันกับเหรียญของหลวงปู่เอี่ยมวัดหนังที่เหรียญพระเครื่องของท่านก็ได้ถูกออกแบบโดยช่างหลวงเช่นเดียวกัน
3.เหรียญหล่อโบราณทุกเหรียญจะต้องมีคราบขี้เบ้า(ดินนวลผสมขี้วัว)ให้พบเห็นที่องค์พระเสมอมากบ้างน้อยบ้างอย่างน้อยก็อยู่ในบริเวณที่เป็นซอกลึกๆเนื่องจากเวลาสร้างเหรียญนั้นจะมีการนำดินนวลผสมขี้วัวมาทาไว้ เวลาโลหะที่มีความร้อนสูงไหลเข้ามาในเบ้าดินนี้ก็จะหลอมรวมกันหรือกินเนื้อกับโลหะกลายเป็นคราบขี้เบ้าที่ผิวภายนอกเหรียญให้พบเห็นซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดบ่งชี้ของเหรียญหล่อโบราณที่ควรทราบ
4.มวลสารหรือโลหะที่นำมาสร้างเหรียญหล่อนั้นมักจะเป็นทองเหลืองและโลหะผสมต่างเช่นเงิน ทอง เครื่องใช้สำริดต่างๆที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้านทำให้ผิวของเหรียญเวลาส่องดูจะเห็นกระแสโลหะต่างๆแยกออกไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกันเกิดเป็นเสี้ยนหรือรอยย่นให้เห็นได้
5.เหรียญหล่่อโบราณบางองค์อาจจะมีปริมาณเนื้อโลหะที่หล่อไม่เต็มองค์เกิดเป็นหลุมหรือแอ่งเล็กๆหรือบางเหรึยญอาจมีเนื้อเกินจากการเทโลหะเหลวเวลาหล่อเกิดเป็นเนื้อเกินลักษณะกลมๆที่เรียกว่าลูกบอลให้เห็น อย่างไรก็ตามผิวของเหรียญหล่อแท้จะต้องเรียบตึงไม่ฝ่อเหมือนเหรียญปลอม
6.เหรียญหล่อโบราณที่ได้อายุผิวเหรียญจะต้องมีความแห้งมาก สีของโลหะจะซีดลงและเป็นมันและผิวเหรียญจะต้องไม่มีลักษณะเป็นประกายวาววับที่บ่งชี้ว่าเป็นของใหม่อย่างเด็ดขาด